คำยืมจากภาษาต่างประเทศ
คำที่มาจากภาษาต่างประเทศในภาษาไทย
ภาษาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม
เมื่อมนุษย์มีการติดต่อสื่อสารกันย่อมเกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมขึ้น
เมื่อมีการรับวัฒนธรรมอื่นมาโดยไม่มีคำในภาษาเดิมรองรับจึงเกิดความจำเป็นต้องยืมภาษาต่างประเทศเข้ามาใช้
การยืมคำจากภาษาต่างประเทศถือเป็นการรับวัฒนธรรมอื่นเข้ามาใช้ในภาษาของตนเองด้วยไม่ว่าการรับนั้นจะเกิดขึ้นด้วยความจงใจหรือไม่ก็ตาม
นอกจากนี้ยังมีความเกี่ยวข้องด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
ทำให้มีความเจริญงอกงามแลมีคำสำหรับติดต่อสื่อสารมากขึ้น
สาเหตุที่ปะปนเข้ามาในประเทศไทย
1.ความสัมพันธ์กันทางเชื้อชาติและถิ่นที่อยู่อาศัยตามสภาพภูมิศาสตร์
2.ความสัมพันธ์กันทางด้านประวัติศาสตร์
3.ความสัมพันธ์ทางด้านการค้า
4.ความสัมพันธ์ทางด้านศาสนา
5.ความสัมพันธ์กันทางด้านวัฒนธรรมประเพณี
6.ความก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยี
7.การศึกษาวิชาการต่างๆ
8.การศึกษาภาษาต่างประเทศโดยตรง
9.ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับคนต่างชาติ
10.ความสัมพันธ์ทางการทูต
คำไทยแท้
1.คำไทยแท้มักจะเป็นคำพยางค์เดียว
ภาษาไทยจัดอยู่ในตระกูลภาษาคำโดด
หรือคำพยางค์เดียวโดดๆลักษณะของคำนั้น
ส่วนมากมักเป็นคำพยางค์เดียวโดยพิจารณาจากคำดังเดิม หรือคำพื้นฐานของภาษา
2.ภาษาไทยที่มีระบบเสียงสูงเสียงต่ำ
ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีลักษณะเหมือนเสียงดนตรี
วรรณยุกต์จึงมีประโยชน์แล้วจำเป็นในภาษาไทยมาก
3.คำไทยแท้มักใช้ตัวสะกดตรงตามมาตรา
เช่น คำว่า กาบ กบ กด แต่คำที่มาจากภาษาอื่นมักใช้ตัวสะกดอื่นได้ต่างๆกัน เช่น กาญจน์ การ หรือบางทีจะเป็นตัวควบกล้ำกัน
4.คำไทยแท้มักไม่มีตัวการันต์ คำไทยแท้จะสะกดตรงตามตัวไม่มีการันต์
5.คำไทยแท้มักจะไม่ใช้รูปพยัญชนะ ฆ ญ ฎ ฏ ฐ ฑ ธ ฒ ณ ศ ษ ยกเว้นคำว่า รัง ฆ่า
เฆี่ยน เฒ่า ณ ธ เศิก ศอก
หญ้า หญิง เป็นต้น
6.คำไทยแท้มักเป็นคำเดียวซึ่งมีความหมายในตัวเอง
เช่น เขาฟันต้นไม้
“ฟัน”ในที่นี้เป็นคำกริยา
ฟันของเขาหัก
“ฟัน”ในที่นี้เป็นนาม
ภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย
1.ภาษาบาลี-สันสกฤต
2.ภาษาจีน
3.ภาษาเขมร
4.ภาษาอังกฤษ
5.ภาษาชวา-มลายู
ภาษาบาลี
หลักการสังเกตภาษาบาลี
1. สระในภาษาบาลีมี 8 ตัว
อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ
2. พยัญชนะในภาษาบาลีมี 33 ตัว แบ่งเป็นวรรคได้
แถวที่
|
1
|
2
|
3
|
4
|
5
|
วรรคกะ
|
ก
|
ข
|
ค
|
ฆ
|
ง
|
วรรคจะ
|
จ
|
ฉ
|
ช
|
ฌ
|
ญ
|
วรรคฏะ
|
ฏ
|
ฐ
|
ฑ
|
ฒ
|
ณ
|
วรรคตะ
|
ต
|
ถ
|
ท
|
ธ
|
น
|
วรรคปะ
|
ป
|
ผ
|
พ
|
ภ
|
ม
|
เศษวรรค ย ร ล ว ส ห ฬ อํ
3.
มีตัวสะกดและตัวตาม
แถวที่
1 เป็นตัวสะกด แถวที่ 2 เป็นตัวตาม เช่น สิกขา บุปผา สักกะ
แถวที่
3 เป็นตัวสะกด แถวที่ 4 เป็นตัวตาม เช่น วิชชา อัคคี
แถวที่
5 เป็นตัวสะกด แถวที่ 1,2,3,4,5 เป็นตัวตาม
เช่น กังขา สงฆ์ องค์
เศษวรรคสะกด
เศษตัวเดิมตาม เช่น ปัสสาวะ นิสสัย วัภภล
4.
นิยมใช้ ฬ เช่น จุฬา กาฬ
5.
ไม่นิยมใช้คำควบกล้ำและอักษรนำ เช่น คำว่าปฐม มัจฉา สามี มิต
6.นิยมใช้คำว่า
ริ เช่นคำว่า ภริยา จริยา เป็นต้น
7.นิยมใช้พยัญชนะตัว
ณ นำหน้าวรรคฏะ เช่นคำว่า มณฑล ภัณฑ์ หรือนำหน้า ห เช่น กัณหา ตัณหา เป็นต้น
ภาษาสันสกฤต
หลักการสังเกตภาษาสันสกฤต
1
.สระในภาษาสันสกฤตมี 14 ตัว อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ ฤ ฤา ฦ ฦา ไอ เอา
2.
พยััญชนะมี 35 ตัว เพิ่มมาจากภาษาบาลีอีก 2 ตัว คือ ศ ษ คำที่มี ศ ษ เป็นสันสกฤต ยกเว้นคำว่า
ศอก ศึก เศิก โศก เศร้า เป็นไทยแท้
3.
มีตัวสะกดและตัวตามไม่ตายตัว เช่นคำว่า กันยา จักษุ จุฑา กรีฑา ครุฑ
4.นิยมใช้
ฑ เช่นคำว่า จุฑา กรีฑา ครุฑ เป็นต้น
5.นิยมใช้คำควบกล้ำและอักษรนำ
เช่นคำว่า ประถม สวามี มิตร เป็นต้น
6.นิยมใช้ตัว
รร หรือที่เราเรียกว่าตัว ร หัน เช่นคำว่า ภรรยา จรรยา หรรษา เป็นต้น
7.นิยมใช้คำว่า
เคราะห์ เช่นคำว่า วิเคราะห์ สังเคราะห์ อนุเคราะห์ เป็นต้น
ภาษาจีน
หลักการสังเกตภาษาจีน
1.มักเป็นคำที่มีเสียงวรรณยุกต์
ตรี และจัตวา
2.มักเป็นคำที่ประสมด้วยเสียงสระ
เสียงสั้น เอีย/อัว
3.มักเป็นคำที่มีพยัญชนะจะเป็นเสียงกลางทั้งหมด
ภาษาอังกฤษ
หลักการสังเกตภาษาอังกฤษ
1.จะต้องเป็นคำหลายพยางค์ เช่นคำว่า
เทคโนโลยี สตอเบอร์รี่ เป็นต้น
2.มักเป็นคำที่ไม่มีการเปลี่ยนรูปไวยากรณ์
3.มีเสียงพยัญชนะที่ไม่มีในภาษาไทย ฟ/ล ควบกล้ำ บร เป็นต้น
ภาษาเขมร
หลักการสังเกตภาษาเขมร
1.มักจะเป็นคำโดด
2.มักมีตัวสะกดไม่ตรงกับภาษาไทย เช่น ล ช
จ ญ
3.มักเป็นคำที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์
เช่นคำว่า สำราย บันเทิง
ภาษาชวา-มลายู
หลักการสังเกตภาษาชวา-มลายู
1.มักจะเป็นคำสองพยางค์
2.มักเป็นคำที่ไม่มีสียงพยัญชนะควบกล้ำ
เช่นคำว่า มังคุด บุหลัน กุญชร เป็นต้น
3.มักเป็นคำที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น